เป็นธรรมดาของการก้าวเข้าสู่ปีใหม่ที่คนมักจะตั้งเป้าหมายในปีต่อไป ไม่ว่าด้วยเรื่องการออกกำลังกาย ลดน้ำหนัก ไปจนถึงเริ่มหยอดกระปุกใหม่อีกครั้ง แต่ก็น่าจะมีอีกหลายคนที่ยังไม่รู้ว่าปีหน้าฟ้าใหม่จะให้อะไรกับตัวเองดี ผมมีทางเลือกง่ายที่สุดมาเสนอ คือเริ่มที่การเปลี่ยนแปลงตัวเองนี่แหละครับใกล้ที่สุดแล้ว โดยเฉพาะในยุคที่เทคโนโลยีต่างๆ เข้ามามีบทบาทต่อชีวิตประจำวันมากขนาดนี้ อุปกรณ์ที่เห็นกันผ่านๆ ตาแต่ทำอะไรได้มากกว่าที่ตาเห็นก็มีอย่างแพร่หลาย ยกตัวอย่างง่ายๆ เลยคือ Smart Watch เป็นของที่เหมาะแก่การเริ่มต้นใหม่อย่างยิ่ง
หากสังเกตตัวเลขการเติบโตของ Smart Watch ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2020 จะเห็นว่าเติบโตขึ้นกว่าปีก่อนถึง 20% ซึ่งอาจเป็นผลมาจากเทรนด์รักสุขภาพและโซเชียลมีเดียที่มีส่วนทำให้ Smart Watch โดยเฉพาะในกลุ่มสุขภาพและไลฟ์สไตล์เติบโตขึ้นอย่างชัดเจน เราจึงอยากพาผู้อ่านมาสำรวจนาฬิกาในตลาดบ้านเราว่ามีเรือนไหนน่าสนใจและเหมาะกับการเริ่มต้นปีใหม่ที่ตัวเอง โดยเราแบ่งประเภทไว้สำหรับคนออกกำลังกาย คนเล่นฟิตเนส คนเล่นกิจกรรมกลางแจ้ง ไปจนถึงกลุ่มไลฟ์สไตล์ที่สวมใส่และใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีในชีวิตประจำวันได้คุ้มค่าที่สุด
กลุ่มนักวิ่ง / For Runner
นาฬิกาสำหรับนักวิ่งมีปัจจัยที่ต้องคำนึงอยู่ไม่กี่อย่างก่อนตัดสินใจซื้อ เพราะเราเชื่อว่านักวิ่งหลายคนที่เพิ่งเริ่มต้นวิ่งใหม่ๆ คงอยากเห็นพัฒนาการของตัวเองเป็นตัวเลขแบบชัดๆ (นี่ยังไม่รวมว่าอยากอวดเพื่อนลงโซเชียล) สิ่งที่สำคัญที่สุดของนาฬิกาสายวิ่งคือระบบ GPS เพราะมันช่วยบันทึกเส้นทางวิ่ง ความเร็วในการวิ่ง บางรุ่นคำนวณได้ถึงรอบขาในการก้าวด้วยซ้ำ จะเห็นว่านาฬิกาบางรุ่นใส่ GPS มาให้ แต่บางรุ่นก็ไม่ได้ใส่มา จึงต้องอาศัย GPS จากการพ่วงสมาร์ทโฟน เพิ่มความยุ่งยากไปอีก ดังนั้นการเลือกนาฬิกาที่มีระบบติดตามเส้นทางในตัว ช่วยให้การวิ่งสะดวกขึ้นแน่นอน
เรื่องที่มีผลต่อมาคือระบบวัดอัตราการเต้นของหัวใจ หลายคนคงเห็นข่าวนักวิ่งหัวใจวายอยู่บ่อยครั้ง แม้ว่านาฬิกาที่วัดอัตราการเต้นของหัวใจจะไม่ได้ช่วยทำให้โรคนี้หาย แต่อย่างน้อยก็พอจะบอกได้ว่าหัวใจของเราทำงานหนักแค่ไหนเวลาออกกำลังกาย ซึ่งนาฬิกาแทบทุกยี่ห้อมีฟังก์ชันนี้ติดเครื่องอยู่แล้ว อีกปัจจัยสำหรับนักวิ่งที่เริ่มจริงจังขึ้นมาคือเรื่องแบตเตอรี่ ส่วนมากแล้วนาฬิกาออกกำลังกายมักใช้งานได้หลายวัน แต่ถ้าคุณเปิดฟังก์ชัน GPS ด้วยย่อมทำให้ระยะเวลาในการใช้งานลดน้อยลง บางรุ่นยังไม่ทันจบมาราธอนแต่นาฬิกาดับไปเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นการเลือกนาฬิกาที่สามารถใช้งานต่อเนื่องหลายชั่วโมง (ปัจจุบันนาฬิการุ่นท็อปสามารถพร้อมเปิดโหมด GPS ใช้งานได้สูงสุดประมาณ 40-60 ชั่วโมง) จึงเหมาะกับนักวิ่งทางไกล โดยเฉพาะหากคุณคิดจะลงแข่งขันวิ่งเทรลที่ระยะมากกว่า 50-100 กิโลเมตรขึ้นไป ก็เป็นปัจจัยที่ควรคำนึงถึงอย่างยิ่ง
ส่วนฟังก์ชันการใช้งานย่อยๆ ที่บางแบรนด์ก็ใส่มาให้ แต่บางแบรนด์ก็ไม่ เช่น การตรวจวัดค่าการใช้งานออกซิเจนขณะออกกำลังกาย (VO2MAX), ฟังก์ชันวัดระดับออกซิเจนในเลือด, ฟังก์ชันวัดรอบขา, วัดความชันเฉลี่ย (Gain) ขณะวิ่งขึ้นลงเขา ไปจนถึงระบบทัชสกรีน (นักวิ่งบางคนก็ชอบ บางคนก็ไม่) สามารถเลือกให้ตอบโจทย์การใช้งานได้ทั้งนั้น
Line : @buyall (มีเครื่องหมาย@ด้วย)
Email : info@panmakapmue.co.th
โทร : 081-9160211 , 081-9160211